จิลล์ คัลตัน มือเขียนบทและผู้กำกับของ Abominable สั่งสมประสบการณ์ด้านแอนิเมชั่นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ สำเร็จการศึกษาจาก Cal Arts เธอได้ทำงานเป็นแอนิเมเตอร์และศิลปินวาดสตอรี่บอร์ดที่พิกซาร์ ซึ่งเธอได้ร่วมทำงานกับภาพยนตร์เรื่อง Toy Story, Toy Story 2และA Bug’s Life ก่อนจะไปช่วยเขียนเรื่องให้กับMonster’s, Inc. เธอยังได้ใช้เวลานานหลายปีทำงานอยู่ที่โซนี่ แอนิเมชั่น ซึ่งเธอได้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องแรกของที่นั่น ได้แก่เรื่อง Open Season คัลตันได้พบกับดรีมเวิร์กส์อยู่นานหลายปีเพื่อพูดคุยถึงหลายโปรเจ็กต์ด้วยกัน แต่ก็จนเธอเสร็จภารกิจจากการฉาย How to Train Your Dragon
ตั้งแต่ที่ Fox เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Disney หลายคนคงเริ่มเป็นกังวลว่าเมื่อไหร่หนอที่เราจะได้เห็นบุรุษชุดแดง Deadpool เปิดตัวเข้ามาอยู่ใน MCU แต่หลังจากความสำเร็จที่ผ่านมา รับรองว่ามันไม่นานเกินรอแน่
We Got This Covered ได้ข่าวมาว่าการเปิดตัว Marvel Cinematic Universe ของ Merc ยังคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปี แต่น่าจะยังอยู่ในพื้นที่ของเฟส 4 แน่ ๆ และนั่นทำให้เราอาจได้เห็น Deadpool ปรากฏตัวใน End Credit ของภาพยนตร์ Marvel เรื่องใดเรื่องหนึ่งในปี 2021 เช่น Shang-Chi: Legend of the Ten Rings, Doctor Strange in the Multiverse of Madness และ Thor: Love and Thunder
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องขอบคุณเลยคือ Kevin Feige ได้ให้คำสัญญาไว้แล้วว่าเขามีความตั้งใจที่จะไม่เปลี่ยนแปลงบทบาทของ Deadpool ที่อยู่ภายใต้ Fox จะว่าง่าย ๆ เรายังคงจะได้เห็นนาย Wade Wilson ฉบับเดิม ๆ แน่ ๆ
สุดท้ายนี้ถ้าจะให้เดาละก็เราขอเดาว่าโอกาสที่เราจะได้เห็น Deadpool โผลามาป่วนใน End Credit ของ Thor: Love and Thunder นั้นมีความเป็นไปได้สูงที่สุด แล้วชาวแบไต๋ละคะ คิดว่าคุณจะได้เจอ Deadpool ในหนังเรื่องไหนกัน
แม้ว่าหน้าหนัง Once Upon a Time in Hollywood จะเน้นขายชื่อ ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ และ แบรด พิตต์ ในฐานะ 2 ดารานำ ในบทนักแสดงชื่อดังและสตันท์แมนคู่ใจที่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาใหม่ในเรื่องนี้ ที่พาเราหวนกลับไปสู่บรรยากาศของวงการภาพยนตร์ในปลายยุค 60s แต่บรรดาตัวละครรายรอบ ริค ดาลตัน และ คลิฟ บูธ ก็ล้วนมีตัวตนจริงและมีอิทธิพลต่อวงการฮอลลีวู้ดอย่างมากในยุคนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่หนังไม่ได้หยิบมาพูดถึงในตัวอย่างหนัง แต่คนรุ่นก่าที่ยังจำเรื่องราวช็อกโลกในวันนั้นได้ก็คือคดีฆาตกรรมสุดโหดที่เกิดจากฝีมือของ ชาร์ล แมนสัน ผู้ก่อตั้งกลุ่ม “แมนสันแฟมิลี” ที่เควนติน ทาแรนติโน ได้พาเรื่องราวให้ Once Upon a Time in Hollywood ไปลงเอยด้วยการพัวพันกับภารกิจโหดของชาร์ล แมนสันและพรรคพวก บทความนี้จะพาไปให้รู้จักตัวตนและวีรกรรมโหดของชาร์ล แมนสัน สามารถอ่านก่อนไปดูหนังได้ ไม่ได้อ้างอิงถึงเนื้อหาในหนัง หรือดูหนังแล้วมาอ่านก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฆาตกรจากนรกผู้นี้
คนดูแทบไม่ต้องคาดเดาว่าหนังจะจบลงอย่างไร ก็ระหว่างทางของ Falling Inn Love ก็ทำให้คนดูสามารถอมยิ้มได้ไม่หุบ เพียงเท่านี้ก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับหนังประเภทรอมคอมที่มีนักแสดงนำเปี่ยมเสน่ห์
อีกหนึ่งผู้กำกับที่แฟนหนังชาวไทยยุคนี้ (หรืออาจเทศด้วย) ไม่น่ารู้จัก แต่มาปรากฏตัวก็คือ ปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช (Peter Bogdanovich) เจ้าของผลงาน 2 รางวัลออสการ์จากหนัง The Last Picture Show (1971) ซึ่งก่อนหน้านี้บางคนอาจคุ้นหน้าตอนหนุ่มของเขาจากหนังเน็ตฟลิกซ์ของผู้กำกับในตำนาน ออร์สัน เวลส์ อย่าง The Other Side of the Wind (2018) ด้วย และสำหรับในหนังเรื่อง IT Chapter 2 นี้ บ็อกดาโนวิชก็คือผู้กำกับหนังที่อยู่ในฉากที่บิลเดินเข้ามาในกองถ่าย แล้วบ็อกดาโนวิชก็นั่งเครนลงมาคุยกับบิลว่า ‘หนังต้องการตอนจบนะบิล’ ซึ่งเปิดประเด็นว่าบิลมีปัญหากับการเขียนตอนจบของหนัง แบบเดียวกับที่เขาเขียนหนังสือจบห่วยนั่นเอง
ปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช หน้าตาเป็นแบบนี้
และสุดท้ายที่ต้องพูดถึงก็คือ แบรนดอน เครน (Brandon Crane) ที่มาแสดงเป็นนักธุรกิจที่อยู่ในห้องประชุมทางไกล ในฉากเปิดตัวของ เบน (เจย์ ไรอัน Jay Ryan) และตาเครนนี่ล่ะก็คือนักแสดงที่เล่นเป็นเบนตอนเด็ก ในฉบับมินิซีรีส์โทรทัศน์ของ IT เมื่อปี 1990 นั่นเอง ทีมงานนี่ก็สร้างก็ช่างสรรหามาคามิโอนะ
ในฉากที่แก๊งขี้แพ้ได้กลับไปยังบ้านของเพนนีไวส์ เหล่าตัวละครอย่าง ริชชี่ (บิล เฮเดอร์ Bill Hader) เอ็ดดี้ และ บิล ต้องเผชิญกับศพของเพื่อนรักที่ฆ่าตัวตายไปก่อนอย่าง สแตน(แอนดี้ บีน Andy Bean) ที่หัวหลุดออกมาแล้วมีขาของแมลงแทงออกมาจากหัว ดูคล้ายแมงมุมหัวมนุษย์ (ฉากนี้หลอนครีเอทมาก) เป็นฉากที่อ้างอิงไปฉากคล้ายกันในหนัง The Thing (1982) ของผู้กำกับ จอห์น คาร์เพนเตอร์ (John Carpenter) ซึ่งริชชี่เองเห็นหัวแมงมุมก็ได้สบถคำเดียวกับตัวละครในหนัง The Thing ด้วยไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า ‘เชี่ยมึงต้องอำกูเล่นแน่ ๆ’
แมงมุมหัวมนุษย์จาก The Thing
นอกจากนั้นหนัง The Thing ยังถูกอ้างถึงอีกครั้งในฉากที่ริชชี่กับเอ็ดดี้ต้องเลือกประตูแห่งความกลัว ซึ่งน้องหมาในฉากนี้มีรูปลักษณะคล้ายน้องหมากลายพันธุ์ในหนัง The Thing ด้วยนั่นเอง
ส่วนแมงมุมนั้น ยังคงเป็นกิมมิกที่หนัง IT ใช้ในฉากสำคัญ ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นร่างสุดท้ายของเพนนีไวส์ที่คล้ายแมงมุมยักษ์ และในฉบับนิยายก็มีฉากที่เบนเผชิญกับความกลัวแมงมุมที่วางไข่มากมายที่กำลังฟักตัว และเขาต้องทำลายให้หมด ซึ่งในหนังภาคนี้ก็เป็นเบนนี่เองที่มาทำลายหัวแมงมุมของสแตนในที่สุด
ภาพยนตร์ นางนอน (The Cave) มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ในประเทศไทย แต่ก่อนหน้านั้นจะทำการฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่เทศกาลหนัง BFI London Film Festival ประเทศอังกฤษ ช่วงเดือนตุลาคมนี้
หลังจากที่ได้ชมตัวอย่างที่สองของ Star Wars : The Rise of Skywalker แฟนๆสตาร์วอร์สคงได้ตื่นตาตื่นใจกับการปรากฏตัวของตัวละครเรย์ด้านมืดที่มาพร้อมกับไลท์เซเบอร์สองท่อนสีแดงเพลิง กับปมปริศนาที่ชี้ชวนให้ขบคิดว่าแท้จริงแล้วเธอคือใคร เรย์จะเข้าสู่ด้านมืดในภาคนี้อย่างนั้นหรือ หรืออาจจะเป็นไปตามทฤษฎีที่แฟนๆคิดกันว่าดาร์กเรย์นั้นคือร่างโคลนและอาจจะรวมไปถึงตัวเรย์จริงๆด้วย !!!
“หากเรย์เป็นร่างโคลนมันจะช่วยตอบข้อสงสัยบางอย่างได้ใน Last Jedi”
มีหลายประเด็นที่ชวนขบคิดจากใน Star Wars: The Last Jedi เช่นเรื่องชาติกำเนิดของเรย์ ที่ไคโลตอบเธอว่า พ่อแม่ของเธอไม่ได้เป็นใครที่ไหนทั้งนั้น เป็นแค่ไอ้ขี้เมาที่ขายเธอเพื่อเอาเงินมาดื่มเหล้าก็เท่านั้นเอง นอกจากนั้นในฉากที่เรย์เข้าไปในถ้ำที่ Ahch-Toh และพยายามหาคำตอบเรื่องพ่อแม่ของเธอ เธอได้สัมผัสกับกระจกดำ ซึ่งปรากฏแต่เพียงภาพร่างของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีที่สิ้นสุด
ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นจริงมันก็มีความเป็นไปได้สูงเลยที่เราจะได้เห็นเรย์มาปะทะกับดาร์กเรย์ซึ่งพอคิดดูแล้ว มันจะทำให้สตาร์วอร์สภาคนี้มีตอนจบที่ grand finale สะใจแฟนๆเลยทีเดียวเชียวล่ะ